วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552
Rudolph
วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552
The Midnight Sun
วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Berliner //Krapfen ^^!
2. ยีสต์สด 1 ก้อน (ถ้าใช้ยีสต์แห้งประมาณ 4 ชช.ค่ะ)
6. ผิวมะนาวขูดจากมะนาวครึ่งลูก
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
เกาะเกร็ด นนทบุรี
ด้วยประการฉะนี้ ความจริงปากเกร็ดนั้นเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง อาทิเช่นที่ วัดกู้ วัดตำหนักใต้ หรือ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เป็นต้น และในละแวก ปากเกร็ด ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่นวัดบ่อ ท่าเรือปากเกร็ด ตลาดริมทางเท้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง วัดสนามเหนือและวัดกลางเกร็ด ถ้าจะข้ามไปยัง เกาะเกร็ด ก็จะได้ชมวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ฯ ศูนย์การผลิตเครื่องปั้นดินเผา ชมสินค้าและวิถีชีวิตชาวมอญแถบนั้น ซึ่งอยู่กันอย่างเรียบง่ายและดำรงรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมเดิม ถ้าท่าน ล่องเรือ รอบๆ เกาะ ก็สามารถแวะบ้านขนมหวานในคลองบางบัวทองเพื่ออุดหนุน ขนมหวานแบบไทยๆ รสชาติอร่อยด้วย..
สำหรับชาวกรุงเทพ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง คือ เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ดเป็นเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นชุมชนที่เจริญมาตั้งแต่ ปลายสมัยอยุธยา วัดต่างๆ ที่สร้างขึ้นบนเกาะเป็นโบราณสถานที่สวยงามสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายทั้งสิ้น มีฐานะเป็นตำบลแบ่งเขตการปกครองเป็นหมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 7 หมู่บ้าน เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดลำน้ำเจ้าพระยาตรงส่วนที่เป็นแหลมยื่นไปตามความโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ.2265 เรียกคลองนี้ว่า “คลองลัดเกาะน้อย” ต่อมากระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางทำให้คลองขยายกว้างขึ้น เพราะถูกแรงของกระแสน้ำเซาะตลิ่งพัง จึงกลายเป็นแม่น้ำและเกาะเกร็ดมีสภาพเป็นเกาะเช่นปัจจุบัน
วัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่ตำบลเกาะเกร็ด เยื้องท่าเนือสุขาภิบาลปากเกร็ดไปทางใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร และอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือวัดสนามเหนือเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร สร้างแบบรามัญ เดิมวัดนี้เป็นวัดเก่าชื่อวัดปากอ่าว ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัด และโปรดให้สร้างพระเจดีย์รามัญ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระราชทานนามว่า วัดปรมัยยิกาวาสเนื่องจากศิลปะที่สร้างมีลักษณะแบบมอญ พระเจดีย์ทุกองค์สร้างแบบมอญ และพระพุทธรูปพระประธานในโบสถ์สลักด้วยหินอ่อนแบบมอญด้วย จึงเรียกกันว่า “วัดมอญ” ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และบานประตูหน้าต่างโบสถ์ประดับลายปูนปั้นสวยงาม
ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ ตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายของวัดปรมัยยิกาวาส ห่างจากวัดประมาณ 100 เมตร เป็นสถานที่แสดงภาชนะเครื่องปั้นดินเผาแบบรามัญ รูปทรงต่างๆ ฝีมือประณึตสวยงาม เช่น หม้อน้ำ นอกจากนี้ยังมีการแสดงวิธีการปั้นและจำหน่ายสินค่าเครื่องปั้นดินเผาด้วย เปิดให้ชมทุกวัน
หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา ตั้งอยู่บริเวณสองบ้างทางเดินรอบเกาะเกร็ดทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของวัดปรมัยยิกาวาส เป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผาภาชนะของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง ครก อ่างน้ำ เป็นต้น แหล่งใหญ่และเก่าแก่ของจังหวัดนนทบุรี สามารถชมขั้นตอนต่างๆในการทำเครื่องปั้นดินเผ่าตั้งแต่การเตรียมดินจนถึงวิธีการนำเข้าเตาเผา
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ประโยชน์จากลำไยอบแห้ง
วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Gelato
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
Super_Dollfie#Dollfie#BJD~*DoLL
***Delf (เป็นชื่อรุ่นDollของ LUTS) กรุณาอย่าเรียกชื่อรุ่นของDollผิดนะคะ มิฉะนั้นอาจจะถูกตำหนิได้ ดังนั้นถ้าเรียกรุ่นไม่ถูกก็ควรเรียกรวมๆ เป็น doll หรือ BJDค่ะ
ถ้าเป็นบริษัทอื่นนอกจาก Volks เขาก็มีชื่อไลน์ดอลและรุ่นของเขาเอง โดยไม่เรียกว่า SD หรือ Super Dollfie ยกตัวอย่างเช่น LUTS ก็จะเป็นตระกูล Delf เช่น Delf <57-60> SDF ( Senior Delf ) <60-62>, Kid Delf <> Honey Delf, Zuzu Delf สังเกตว่าจะเป็น Delf หมดค่ะ ไม่มีการเรียกว่า SD หรือ Super Dollfie คนที่เล่นดอลของ LUTS ก็จะเรียกดอลของตัวเองว่า Delf เช่นกัน
***D.O.D จะแบ่งรุ่นเป็น
1--->D.O.T <> ขนาด 60-64 cm.
2--->D.O.C <> ขนาด 45 cm โดยประมาณ
3--->D.O.I <> ขนาด 70 cm.
4--->Dollsoom ตั้งชื่อไลน์ดอลเป้นตระกูล Gem แบ่งเป็น
สรุป คำว่า Super Dollfie และ Dollfie ไม่ใช่คำที่ใช้เรียก BJD โดยสากลนะคะ ใช้แค่กับดอลของ Volks เท่านั้น
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ความหมายของธงเจ
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ประโยชน์ของชา
วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552
Cologne
ขบวนแห่สนุกสนาน ความอิ่มเอมเปรมใจ และการซื้อขายอย่างสะดวกสบาย คือ เมืองโคโลญน์ศูนย์กลางของคนหลายชาติหลากภาษาซึ่งมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 1,020,116 คน และยังคงรักษาเอกลักษณ์นิสัยของความเอื้ออารีอารอบกันในหมู่เพื่อนบ้าน ยอดสูงระฟ้าของมหาวิหารเก่าแก่ของเยอรมนี เมืองที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมประวัติศาสตร์อย่างมหาศาล พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงก้องโลกที่ยังคงแข็งแรงและยังคงความสวยงาม โรงผลิตเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ป็นแหล่งผลิตเบียร์คลอสต์ และยังเป็นแหล่งผลิตไวน์เลิศ รสเพื่อส่งไปจำหน่ายให้กับภัตตาคารชั้นหนึ่งและเป็นที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างดีซึ่งร้านขายเหล้ามีมากกว่า 3,000 ร้าน ,ภัตตาคารและโรงเบียร์
เมืองโคโลญจน์ เป็นเมืองหนึ่งในประเทศเยอรมนีที่เป็นผู้นำในการกินการดื่มอย่างละเอียดอ่อนโดยคิดเป็นอัตราต่อหัวของประชากรและไม่มีเมืองใดในเยอรมนีที่มีโรงเบียร์และเมืองที่มีภัตตาคารชั้นนำมากมายเท่านี้
เมืองโคโลญน์เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการปกครองตนเองที่ยิ่งใหญ่ และเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์เอกชนเป็นจำนวนมาก ที่ซึ่งทรัพย์สินเหล่านั้นได้นำมาจากที่ต่างๆมากมาย ซึ่งมีชื่อเสียงมากว่า 2,000 ปี เทียบเท่ากับประวัติศาสตร์ของตัวเมือง ผู้ที่รักศิลปะทางด้านดนตรีของเมืองโคโลญจน์ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองการแสดงดนตรีอันทรงเกียรติอลังการแห่งหนึ่งเป็นในยุโรป
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552
La Haute-Normandie
^
^
^
^
Rouen.
วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เวนิส?
เวนิส (อังกฤษ:Venice ;อิตาเลี่ยน: Venezia) เป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี มีประชากร 271,663 คน (ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม 2547) เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light)
วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552
Colmar
วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
Buckingham Palace
แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ในวันที่มีเหตุการณ์สำคัญของเมือง
หรือการผลัดเปลี่ยนเวรอาจจะงดได้ในวันที่ฝนตก
พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอนในสหราชอาณาจักรเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐและยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน และยังเป็นที่รวมพลังใจทั้งในการฉลองและในยามคับขันของชาวอังกฤษพระราชวังบัคคิงแฮมแต่เดิมชื่อ “คฤหาสน์บัคคิงแฮม” (Buckingham House) ในปี ค.ศ. 1703 ในปี ค.ศ. 1761 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3ทรงซื้อจากดยุคแห่งบัคคิงแฮมเพื่อเป็นพระราชฐานส่วนพระองค์
ที่รู้จักกันในชื่อ “วังพระราชินี” (The Queen's House) พระราชวังบัคคิงแฮมกลายมาเป็นพระราชฐานที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย
ขึ้นครองราชย์เมื่อปี ค.ศ. 1837 การต่อเติมครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายทำในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งรวมทั้งด้านหน้าที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
บางครั้งพระราชวังบัคคิงแฮมก็เรียกกันเล่นๆว่า “บัคเฮาส์”
วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
The Leaning Tower of Pisa
วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles)
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ยุคมืดของแม่มด!!!
ฉะนั้นจึงมีการเฆี่ยนประจาน การทรมานด้วยวิธีนานาที่จะนึกออกได้ ใครจะทนการทรมานไหว ก็จำต้องรับสารภาพ เพื่อจะได้ตายด้วยวิธีที่ไม่ทรมานนั่นคือ การเผาทั้งเป็น!
อีกตัวอย่างเหตุการณ์ของการจับแพะแม่มดที่สำคัญโด่งดังคือ กรณีเซนต์โจนส์แห่งตำบลอาร์ค (โยนส์ออฟอาร์ค) เพียงเพราะเป็นผู้หญิงที่ไม่คอยมีใครรู้ที่มาที่ไป และนำทัพปฏิวัติให้ฝรั่งเศสเป็นอิสระจากอังกฤษ อย่างเหลือเชื่อ การเมืองไม่เข้าใครออกใคร จะด้วยอิจฉาหรือกลัวถูกแย่งประชานิยมหรือรักษาตัวรอดตามเกมการเมืองก็ตาม ผู้มีอำนาจในฝรั่งเศสสมรู้กันมอบเธอให้อังกฤษ เพื่อแลกกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งที่เธอต่างหากที่ปลดปล่อยฝรั่งเศสให้กลับมาเป็นปึกแผ่น และมีกษัฅริย์ของตนเอง เธอถูกตัดสินว่า ผิดจริงโดยใช้พลังของแม่มดในการเมืองการสงคราม และถูกเผาทั้งเป็น แต่ภายหลังเป็นร้อยปี ก็ได้มีการรื้อคดีมาทำใหม่ และประกาศว่าการพิพิากษาครั้งนั้นไม่ถูกต้อง แล้วเธอได้รับยกย่องให้เป็น หนึ่งใน นักบุญ
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
++ตำนานดอกกุหลาบ++
เป็นพืชที่มีอายุถึง40ล้านปีแต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆมากมายความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่า นี้มีเฉพาะในแถบบริเวณ
เหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอด ซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย
ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรด์จีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย
กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์
ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่าน้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของอคอนิสคนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่าเลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเองแต่ บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิด
จากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม
บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมีเซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของ
เทพอพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาจากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่
(อโฟรไดท์ หรือ วีนัส เทพแห่งความงาม)
(เทพแห่งเหล้าองุ่น)
ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบ
(เทพอีโรส)
ให้กับเทพอีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ และผู้หญิงคนแรบสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลา[